Wonka ภาพยนต์ที่ถูกสร้างเป็นจุดเริ่มต้นของ วิลลี่ วองก้า นักทำขนมหวานและช้อกโกแลตที่มีชื่อเสียงจนสามารถสร้างอาณาจักรของเขาให้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ Willy Wonka & the Chocolate (1971) และ Charlie and the Chocolate (2005) ซึ่งเป็นเรื่องราวของ วองก้า ในรูปแบบต่างๆ ของนักประดิษฐ์อาหารเลิศรสและช็อกโกแล็ตที่ประสบความสำเร็จ กำกับโดย พอล คิง
วิลลี่ วองก้า (รับบทโดยทิโมธี ชาลาเมต์) เริ่มต้นที่จะประดิษฐ์กรรมวิธีในการทำอาหารและขนมหวานให้แขกในงานเปิดตัวร้านขนมของวองก้าเป็นที่แรก โดยที่เขาใช้จ่ายเงินก้อนสุดท้ายเพียงเล็กน้อยในการสร้างร้าน
นู้ดเดิ้ล (รับบทโดยคาลาห์ เลน) เด็กสาวกำพร้าที่มาเป็นผู้ช่วยของวิลลี่ เธอได้ช่วย วองก้า ในการประดิษฐ์อาหารเลิศรส โดยที่เธอไม่สนใจรายได้ของเขาจากการขายโดยไม่มีร้านช็อกโกแลต
เจ้าอาวาส (รับบทโดยโรวัน แอตกินสัน) นักบวชที่เป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่งต้องการปิดร้านและระดมความเชื่อและผู้ที่เคยศรัทธาศาสนากลับมาที่โบสถ์ศักสิทธิ์ หลังจากที่ผู้คนในชุมชนแห่งนั้นมีความเชื่อในเรื่องมหัศจรรย์ของนักทำช็อคโกแล็ตและอาหารที่น่าทึ่งของวองก้า
สลักเวิร์ธ (รับบทโดยแพตเตอร์สัน โจเซฟ) เป็นนักธุรกิจที่ช่อโกงแล้วต้องการที่จะหยุดคู่แข่งที่จะมาแข่งขันในตลาดของ Chocolate Cartel ของพวกเขา พวกเขาหาวิธีกลั้นแกล้งและหยุดว้องก้าด้วยวิธีการต่างๆ แม้กระทั้งการใส่ยาพิษลงไปในอาหารในช่วงที่มีการเปิดตัวร้านอาหารให้นักชิมได้ลิ้มลองรสอาหารที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างมีสีสรรค์ของวองก้า
สุดท้ายแล้ววองก้าได้สูญเสียกิจการร้านจากการวางแผนทำลายของ สลักเวิร์ธ โดยที่พวกเขาได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเป็นเงินจำวนก้อนโตให้ วองก้า ออกจากเมืองไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่วองก้า ได้มีไอเดียวที่จะใช้ด้วยวิธีการที่ทำให้เขาสามารถสร้างช็อกโกแลตหรือขนมหวานที่อร่อยเป็นครั้งแรกให้กับนักชิมอาหาร
ดังนั้นแล้ว หนังใหม่ชนโรง อย่างเรื่องวองก้ายังคงสร้างความสำเร็จจากการผลิตอาหารด้วยวิธีการของเขาที่เคยริเริ่มเอาไว้ด้วยความเชื่อและการช่วยเหลือของ นู้ดเดิ้ล และอุมปา-ลุมปา (รับบทโดยฮิวจ์ แกรนท์) ชนพื้นเมืองที่มีกรรมวิธีการเพาะพันธุ์พืชที่หาได้ยากบนโลกโดยเฉพาะเมล็ดช็อกโกแล็ต นอกจากนี้เขายังมีสูตรในการผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพที่สามารถช่วยเหลือวองก้าได้