บาคาร่าออนไลน์
การเล่น บาคาร่า ในปัจจุบันมีความสะดวกสบายในการเล่นเอามากๆ เพราะรูปแบบตัวเกมนั้นสามารถเข้าใจได้ง่ายตั้งแต่แรกเห็น หรือก็แค่เลือกวางเดิมพันไปที่ช่องวางเดิมพันที่เราอยากจะเลือกและรอผลที่ทางดีลเลอร์เป็นผู้เปิดหน้าไพ่มาว่าผลของเกมจะออกหน้าไหน โดยไม่ต้องสนใจกติการกันเลยก็ได้ แต่มันจะไปสนุกอะไรถ้าเราเล่นเกมที่เราไม่เข้าใจเกมนั้นเลย ดังนั้นวันนี้ UFABET จึงได้นำคำอธิบายถึงตัวเลือกการวางเดิมพัน ซึ่งถือว่าเป็นความรู้พื้นที่ผู้เล่นเกม บาคาร่าออนไลน์ จำเป็นต้องรู้
ช่องวางเดิมพันของ บาคาร่าออนไลน์
เกม บาคาร่าออนไลน์ ที่เรานั่งเล่นกันในทุกวันนี้ ต่างถูกออกแบบการเล่นผ่านมาแล้วเป็นเวลานานจนเรียกได้ว่าทุกรูปแบบการเล่น และช่องวางเดิมพัน ได้ถูกพัฒนาเข้ามาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นหนึ่งในเกม คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยที่ตัวอย่างช่องวางเดิมพันที่เราต้องรู้จักคล่าวๆนั้นมีดังนี้
ช่องวางเดิมพัน |
อัตราต่อรอง |
เจ้ามือ |
0.95:1 |
ผู้เล่น |
1:1 |
ไพ่เบิ้ล |
5:1 |
เสมอ |
8:1 |
ไพ่ป๊อก |
7:2 |
ไพ่คู่ |
11:1 |
ซุปเปอร์ซิก |
12:1 |
ไพ่เบิ้ลฟลัช |
25:1 |
ความหมายของรูปแบบการเดิมพัน
เอาล่ะจากตัวอย่างการวางเดิมพันข้างต้น บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าช่องวางเดิมพันนั้นมีความหมายว่าอย่างไร
1.เดิมพันเจ้ามือ มันเป็นช่องวางเดิมพันที่ให้อัตราต่อรองที่ต้องหักค่าคอมมิชชั่นออก 5% หากชนะ แต่เวลาเสียก็ต้องเสียเต็ม เช่น วางเดิมพันพัน 100 บาท ชนะได้ 95 บาท แพ้เสีย 100 บาท
2.เดิมพันผู้เล่น เป็นช่องเดิมพันฝั่งผู้เล่นที่ให้อัตราต่อรองแบบ 1:1 คือไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นเมื่อวางเดิมพันฝั่งผู้เล่น
3.เดิมพันไพ่เบิ้ล จะเป็นการวางเดิมพันว่าไพ่ฝ่ายผู้เล่นหรือเจ้ามือออกแต้มหรือตัวอักษรเหมือนกัน
4.เดิมพันเสมอ เป็นช่องวางเดิมพันที่แต้มของผู้เล่นและเจ้ามือเท่ากัน
5.เดิมพันไพ่ป็อก เป็นช่องเดิมพันที่เราจะต้องชนะด้วยแต้มจากไพ่ทั้ง 2 ใบ รวมกันที่ 8 หรือ 9 หากได้แต้มนี้ ฝ่ายที่ได้แต้มน้อยกว่าจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีก เกมจะหยุดและผู้ที่ได้แต้มดังกล่าวจะชนะไป
6.เดิมพันไพ่คู่ เดิมพันฝ่ายที่ชนะ ด้วยไพ่ 2 ใบแรกที่เหมือนกัน โดยไม่ต้องสนใจสัญลักษณ์ของไพ่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์อะไรสีอะไร ยกตัวอย่างเช่น ดีลเลอร์แจกไพ่ให้เราแล้วไพ่ 2 ใบแรกเป็น 5 ดอกจิก และ 5 ข้าวหลามตัด เกมนั้นคนที่วางเดิมพันที่ช่องไพ่คู่ ก็จะได้ผลตอบแทนจากช่องนั้นไป ซึ่งไพ่คู่มีอัตราต่องรองของผลตอบแทนสูงถึง 11:1 กันเลยทีเดียว
7.ซุปเปอร์ซิก เป็นการเดิมพันว่าเจ้ามือชนะด้วยแต้ม 6 แต้มหรือไม่
8.เดิมพันไพ่เบิ้ลฟลัช จะเป็นการที่ไพ่ที่แจกในสองใบแรกของเจ้ามือหรือผู้เล่นมีแต้มหรือตัวอักษรภาษาอังกฤษเหมือนกันและต้องมีดอกสีที่เหมือนกัน
กติกาการเล่นพื้นฐานที่ต้องเข้าใจ
ในเกม บาคาร่าออนไลน์ กติกาการพื้นฐานที่ผู้เล่นจะต้องเข้าใจเพิ่มเติมอีกนั่งก็คือ การนับแต้ม และกฎการจั่วงไพ่เพิ่ม ซึ่งทั้งสองก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุดโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การนับแต้ม
รูปแบบการนับแต้มในเกม จะเป็นการนับแต้มทั้ง 2 ใบรวมกัน ตามเลขหน้าไพ่ตั้งแต่ 2-9 หากออกตัวเลขไหนก็จะได้แต้มเท่านั้นโดยไม่สนว่าจะมีสัญลักษณ์หน้าไพ่แบบไหน ส่วนแต้มอื่นๆอย่าง A จะมีค่าเท่ากับ 1 แต้ม และไพ่เลข 10 จะมีค่าเท่ากับ 0 โดยที่เกมนี้จะตีค่าไพ่หน้าคนอย่าง J,Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 และหากแต้มของไพ่ทั้ง 2 ใบ หรือจั่วเพิ่ม 2 ใบได้เลข 2 หลัก เกมนี้จะไม่นับเลขหน้า จะนับเพียงเลขหลัง ยกตัวอย่างเช่น ดีลเลอร์แจกไพ่ทั้ง 2 ใบได้ 5 และ 9 แต้มรวมกันได้ 13 ก็จะนับแต้มเป็น 4 แต้มเท่านั้น หรือจะกรณีที่มีการจั่วไพ่เพิ่มเป็นใบที่ 3 ได้เป็น 8, 5 และ 3 เมื่อนำมารวมกันจะได้ 16 นับแต้มจริงๆก็จะนับแค่ 6 แต้มนั่นเอง
การจั่วไพ่เพิ่ม
เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราควรจะต้องจั่วไพ่เพิ่ม? สำหรับกติการจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่จั่วเพิ่มของเกม บาคาร่าออนไลน์ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งผู้เล่น จะนับจากแต้มที่มีน้อยกว่า 6 แต้มจะต้องทำการจั่ว หรือทั้งผู้เล่น และ เจ้ามือได้ไพ่ทั้ง 2 ใบรวมกันเป็น 6-7 แต้ม ให้ลุ้นผลแพ้ชนะหรือเสมอทันที แต่หากฝ่ายเจ้ามือได้ 8-9 แต้ม ก็หมดสิทธิ์จั่วทันทีเช่นกัน ส่วนกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มของเจ้ามือ จะมีความซับซ้อนมากขึ้น ถ้าจะอธิบายก็ดูจะยากเกินเข้าใจเกินไป เอาเป็นว่าดูแบบตารางเพื่อความเข้าใจระหว่างเล่นกันเลยดีกว่า
ไพ่ 2 ใบแรก ของเจ้ามือรวมกัน |
จำนวนแต้มของผู้เล่นใบที่ 3 (จั่วไพ่) |
จำนวนแต้มของผู้เล่นใบที่ 3 (ไม่จั่วไพ่) |
3 |
1,2,3,4,5,6,7,9 และ 0 |
8 |
4 |
2,3,4,5,6 และ 7 |
1,8,9 และ 0 |
5 |
4,5,6 และ 7 |
1,2,3,8,9 และ 0 |
6 |
6 และ 7 |
1,2,3,4,5,8,9 และ 0 |
7-9 |
– |
– |